สุดช็อก!! บริษัทซื้อขายรถมือสองชื่อดัง ปิดกิจการฟ้าผ่า หลังขาดทุนหลายพันล้าน
ข่าวสะเทือนวงการ! บริษัทซื้อขายและแลกเปลี่ยนรถมือสองชื่อดัง “CARS 24” ประกาศปิดกิจการอย่างกะทันหันในวันที่ 25 เมษายน 2567 หลังจากขาดทุนหลายพันล้านบาท การตัดสินใจปิดกิจการนี้ทำให้พนักงานหลายชีวิตตกงานทันทีและได้รับการชดเชยจากบริษัท
CARS 24 เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการจำหน่ายรถมือสองทั้งในรูปแบบออฟไลน์และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ระดับประเทศ แต่เนื่องจากสถานการณ์ตลาดที่ราคารถมือสองลดลงอย่างรุนแรง รถมือสองถูกยึดเข้าลานประมูลจนล้น การระบายรถออกจากลานเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ผู้บริหารบริษัทซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอินเดีย มองเห็นถึงความเสี่ยงในการขาดทุนที่อาจเพิ่มสูงขึ้นและตัดสินใจประกาศปิดกิจการอย่างไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ส่งผลให้พนักงานหลายร้อยชีวิตต้องตกงานทันที
ทางด้านลูกค้าที่ซื้อรถและผ่อนชำระกับบริษัทไฟแนนซ์จะต้องดำเนินการผ่อนชำระต่อไปตามปกติ ขณะที่บริษัทกำลังเร่งระบายรถที่คงค้างอยู่ออกจำหน่ายอย่างเร่งด่วน พร้อมกับมีแนวโน้มที่จะลดราคาลงอีก นับเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถมือสองคุณภาพดีในราคาที่ต่ำกว่าปกติ
ข่าวนี้สร้างความตกใจให้กับอุตสาหกรรมรถมือสองและเป็นสัญญาณเตือนให้กับธุรกิจอื่นๆ ในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
การปิดตัวของ CARS 24 นับเป็นการเตือนใจให้กับภาคธุรกิจที่อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถมือสองที่ต้องแข่งขันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
เหตุการณ์นี้ยังเป็นตัวอย่างของความสำคัญในการจัดการความเสี่ยงและการวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทที่ขาดการวางแผนที่ดีอาจพบกับปัญหาใหญ่หลวงเมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างจาก CARS 24 ชี้ให้เห็นว่าแม้แต่บริษัทที่มีชื่อเสียงและมีพื้นฐานทางการตลาดที่แข็งแกร่งก็ยังสามารถพบกับชะตากรรมเดียวกันได้
ด้านผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าของ CARS 24 ก็ต้องจับตาดูการจัดการหลังการปิดกิจการ เช่น การระบายสินค้าคงคลังและการดูแลสิทธิ์ในการเคลมประกันหรือการบริการหลังการขาย สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่ผู้บริหารจำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อยเพื่อรักษาความไว้วางใจจากลูกค้าและรักษาชื่อเสียงของบริษัทไว้
ในที่สุด การปิดกิจการของ CARS 24 ก็สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจที่ไม่ได้เตรียมตัวอย่างเพียงพอ